รีวิวหนัง : มะลิลา Malila The Farewell Flower

ถึงคิวฉายในประเทศไทยกันแล้ว สำหรับภาพยนตร์รักโรแมนติก มะลิลา Malila The Farewell Flower ผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ นุชี่ อนุชา บุญยวรรธนะ ที่เคยฝากภาพยนตร์ที่พาทุกคนดำดิ่งมาแล้วใน อนธการ (2015) มาในปีนี้ได้นำ มะลิลา มาฝากแฟนหนังให้รับชมกันอีกครั้ง ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะ มะลิลา ได้ไปกวาดรางวัลจากต่างประเทศมามากมาย สร้างความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง

มะลิลา Malila The Farewell Flower ว่าด้วยเรื่องราวของความรักความอาลัยของผู้ที่จากไป ซึ่งเป็นเรื่องราวของ เชน เจ้าของสวนมะลิผู้มีอดีตอันเจ็บปวด และ พิช ศิลปินนักทำบายศรี อดีตคนรักของเชนในวัยเด็กที่กลับมาพบกันอีกครั้ง ทั้งคู่พยายามเยียวยาบาดแผลในอดีตและรื้อฟื้นความสัมพันธ์ผ่านการทำบายศรีอันงดงาม รีวิวหนังไทย 

ถือว่าการรอคอยของแฟนหนังชาวไทยกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว เมื่อท้ายที่สุด มะลิลา ก็ได้ฤกษ์ฉายในไทย 15 กุมภาพันธ์นี้ ต้อนรับวันแห่งความรักเลยทีเดียว จากกระแสตอบรับที่ดีจากคอหนังต่างชาติ จนได้รับรางวัลมานับไม่ถ้วน ด้วยคำชื่นชมจากนักวิจารณ์จึงทำให้มีความคาดหวังค่อนข้างสูงกับหนังเรื่องนี้ พอได้ดูตั้งแต่ต้นจนจบแล้วพบว่าไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ

จากพล็อตเรื่องของ มะลิลา จะเห็นว่าไม่ได้มีความพิเศษหรือแตกต่างจากหนังรักเรื่องอื่นๆ มากนัก หนังเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของคนสองคนที่ต้องมาร่วมรักษาจิตใจและรื้อฟื้นความรักที่เคยมีร่วมกัน แต่ที่มีความพิเศษกว่าหนังเรื่องอื่นๆ ก็คือวิธีการเล่าเรื่อง ซึ่งมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง หากใครเป็นแฟนหนังของ นุชี่ อนุชา ก็น่าจะคุ้นเคยกันดี เพราะทุกองค์ประกอบของหนังมีลายเซ็นของเขาอยู่

การดำเนินเรื่องของ มะลิลา จะออกแนวเนิบช้า แต่ไม่ได้หมายความว่าเอื่อยจนน่าเบื่อกลับทำให้เราค่อยเสพเรื่องราวอย่างค่อยเป็นค่อยไป งานภาพ-งานเสียงกลายเป็นจุดเด่นและเป็นสิ่งที่ชอบมาก เชื่อว่าหากใครที่ได้ดูหนังเรื่องแล้วจะทำให้ได้ใคร่ครวญชีวิตของตัวละครและของตัวเราเอง เสมือนได้ไปนั่งวิปัสสนากรรมฐานก็มิปาน

ความละเอียด ละเมียดละไมจากหนังนั้นแฝงไปด้วยความร้าวราน ความเจ็บปวดจากความรักและชีวิต ซึ่งไม่ได้เกิดแค่กับตัวเอก แต่เกิดขึ้นกับทุกชีวิต ยิ่งได้การแสดงอันลุ่มลึกของ เวียร์ ศุกลวัฒน์ และ โอ อนุชิต ยิ่งทำให้หนังมีเสน่ห์เป็นตัวของตัวเอง ไม่น่าเชื่อว่าผู้กำกับจะสามารถดึงเอาศักยภาพของนักแสดงที่มีอยู่มากมายออกมาได้อย่างคาดไม่ถึง

จากตัวอย่างหนังหลายคนคงคาดหวังไว้กับฉากเลิฟซีนแน่นอน ซึ่ง เวียร์ และ โอ ได้ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ เป็นธรรมชาติและภาพที่ออกมาไม่ได้เหมือนการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับชาย แต่เห็นการสื่ออารมณ์รักของมนุษย์ที่ไม่ได้มีการแบ่งแยกเพศ ถือเป็นซีนที่ตราตรึงใจมาก

หากบอกว่าองค์ประกอบของหนังทั้งหมดทำออกมาดีมากก็คงไม่ผิดนัก เพราะหนังได้รวมเอาประเด็นทางสังคม วัฒนธรรม ความเชื่อ ศาสนาและความรักมารวมไว้ได้อย่างลงตัว ไม่แปลกใจเลยที่ได้รางวัลมามากมาย ด้วยอารมณ์ของหนังที่มีความเนิบช้าอาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบอะไรเร็วๆ หากลองเปิดใจดูก็จะพบสิ่งมีค่าซ่อนอยู่มากมายในหนังเรื่องนี้

Comments

Popular posts from this blog

รีวิวหนัง Homestay

รีวิวหนัง : เพื่อนฉัน ฝันสลาย Sad Beauty

รีวิวหนัง : ป๊าด 888 แรงทะลุนรก